วันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2559

9 นิสัยแย่ๆในการ ใช้เงิน ที่คนทำบ่อยมากที่สุด


เส้นทางสู่ความร่ำรวย นอกจากจะมีจิตใจที่มุ่งมั่นถึงความสำเร็จและมีความเชื่ออย่างแน่วแน่ว่าจะทำ เงิน เป็นกอบเป็นกำได้แล้ว สิ่งที่ผู้คนพลาดมากที่สุด คือ การบริหารการใช้จ่าย และนี่คือ 9 นิสัยแย่ๆ ที่คนมักจะพลาดกันมากที่สุด

1 “ก่อหนี้ แล้วทำเฉย ไม่ใส่ใจจัดการ” ที่น่าเป็นห่วงมากที่สุด คือ หนี้สินที่ไม่มีหลักประกันอย่างบัตรเครดิต เพราะดอกเบี้ยแพงมาก การจ่ายขั้นต่ำแทบไม่ช่วยลดยอดหนี้ลงไปเลย บางคนพลาดพลั้งเป็หนี้บัตรเครดิตหลายใบ สุดท้ายถลำตัวไปสู่หนี้นอกระบบ แบบนี้อนาคตกู้ซื้อบ้าน-รถ ก็จบกัน

2 “ไม่ทำรายรับ-รายจ่าย” นี่คือสิ่งสำคัญ เพราะมันจะเป็นตัวบอกว่า เงิน ของคุณที่กว่าจะได้มาเลือดตาแทบกระเด็นนั้น มันออกจากมือคุณไปอยู่ตรงไหนบ้าง และถ้าคุณไม่ทำรายรับรายจ่ายเลย ก็เหมือนคนเดินป่าโดยไม่มีเข็มทิศนั่นแหละ มีแต่จะหลงทางแล้วตายอยู่กลางป่านั่นแหละ

3 “ใช้ เงิน เกินตัว” แบบนี้มีเท่าไหร่ก็หมด ทางที่ดีลองปรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตลงมาบ้างให้อยู่ในระดับต่ำกว่ามาตรฐานของคุณเองสักเล็กน้อย เพื่อที่ไม่ให้รายจ่ายเกินเพดาน เมื่อเงินเก็บพอกพูนขึ้นรับรองว่า ใจสงบร่มเย็นขึ้นเยอะ

4 “ซื้อของไม่เน้นคุณภาพ” บางคนคิดแต่จะประหยัด เลยเน้นซื้อของถูกไว้ก่อน แต่ที่ไหนได้ของถูกพังง่ายสุดท้ายเสีย เงิน เยอะกว่าการซื้อของคุณภาพที่ราคาอาจจะสูงกว่า อย่างน้อ้ยก็น่าจะลงทุนกับของใช้ประจำวันที่มีคุณภาพดีหน่อย

5 “ไม่เก็บเงินออมเพื่อเกษียณ” เรื่องนี้ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา คนก็เหมือนกบในหม้อน้ำร้อนนั่นแหละ ยิ่งแก่ตัวไปก็จะยิ่งรู้ว่า เงิน ออมสำคัญแค่ไหน ยิ่งใครไม่มีหรือมีน้อย จะรู้ตัวเลยว่าความลำบากมาเยือนยามไร้เรี่ยวแรงแก่ชราแน่ๆ

6 “ไม่รู้จักการลงทุน” ทุกวันนี้ เงิน เก็บเอาไว้ในธนาคารก็ไม่ได้ เพราะให้ดอกเบี้ยต่ำกว่าเงินเฟ้อ ฝากเอาไว้ก็มีแต่ขาดทุน อย่างน้อยควรทำความรู้จักไว้บ้าง LTF-RMF หุ้น ทองคำ สลากออมสิน หรือช่องทางการลงทุนอื่นๆ ตามที่ถนัด

7 “ไม่สร้างความน่าเชื่อถือทางการเงินไว้บ้าง” ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ คนจะกู้บ้านกู้รถ ต่อให้ไม่มีประวัติว่าไปกู้หนี้ยืมสิน หรือผ่อนบัตรเครดิตที่ไหน ธนาคารก็ลังเลใจที่จะให้กู้นะ ใช้จ่ายผ่านระบบทางการ เงิน บ้าง เพราะแค่เงินฝากเข้าออกทุกเดือนอาจจะยังไม่พอ

8 “ไม่มีเงินออมฉุกเฉิน” เอาแค่โสดตัวคนเดียว หากเกิดฉุกเฉิน รถเสีย ต้องต่อประกัน หรือพลาดไปชนใครเข้า ตัวเองเจ็บ เงิน ค่ารักษาไม่มีจะเอาจากที่ไหน ของแบบนี้ใช้เป็นก้อนใหญ่ จะหวังหยิบยืมใครคงยาก ไม่ต้องพูดถึงคนมีครอบครัว ลูกเจ็บ พ่อแม่ป่วยขึ้นมา คงจะหน้ามืดกันเลยทีเดียว

9 “ไม่มีประกันสุขภาพ” บอกเลยเรื่องนี้คนไทยพลาดกันเยอะ เพราะส่วนใหญ่ประกันรถบนต์ซื้อชั้น 1 ทุกปี แต่พอประกันตัวเองกลับไม่มี ทั้งที่เดี๋ยวนี้โรคร้ายแรง เกิดขึ้นให้เห็นอยู่บ่อยๆ อย่างมะเร็งเป็นแล้วใช้ เงิน รักษามหาศาล จะลำบากกันทั้งบ้านก็งานนี้แหละ

หมายเหตุ : ภาพประกอบบทความ บางภาพไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเนื้อหาแต่อย่างใด

ขอบคุณข้อมูลจาก : KIITDOO 9 นิสัยแย่ๆในการ ใช้เงิน ที่คนทำบ่อยมากที่สุด

อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ : TerraBKK.com

อยากประสบความสำเร็จต้องฝึก “คิดเชิงกลยุทธ์”

“คนที่ประสบความสำเร็จ” กับ “คนที่ยอมแพ้” ต่างกันที่ “ความคิด” ความคิดจะเป็นตัวกำหนดการกระทำของเรา โดยธรรมชาติแล้วความคิดของมนุษย์ต้องการที่จะอยู่รอด ต้องการเป็นผู้ชนะ และพยายามหาวิธีการที่จะเอาชนะมันไปให้ได้ ทำให้ “การคิดเชิงกลยุทธ์” ถือเป็นมิติทางด้านความคิดที่สำคัญ ควรเรียนรู้ และนำไปใช้ในชีวิตประจำวันทั้งเรื่องการแก้ปัญหา การตัดสินใจ และวางแผนเพื่อบรรลุเป้าหมายในอนาคต เนื่องจากการคิดเชิงกลยุทธ์จะทำให้ความคิดของเราไม่สะเปะสะปะ ไม่เลื่อนลอย มีเป้าหมายในการใช้ชีวิต และลดความคิดที่ไม่จำเป็นทำให้สิ้นเปลืองเวลา สิ้นเปลืองพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ 

การคิดเชิงกลยุทธ์ ส่วนใหญ่แล้วจะเกิดขึ้นกับผู้ที่มีความปรารถนาในชัยชนะสูง ทำให้เรามักจะพบเจอกับบบุคคลที่ประสบความสำเร็จในชีวิตมีสัดส่วนที่ค่อนข้างน้อยกว่าคนประเภทอื่นๆ อาจจะเป็นเพราะระบบความคิดของคนเหล่านี้ค่อนข้างแตกต่างจากคนทั่วไป ดังนั้นผู้ที่ต้องการมีความคิดเชิงกลยุทธ์จะต้องเริ่มจากการพัฒนานิสัยพื้นฐานของต้นเองให้ได้เสียก่อน มีลำดับขั้นตอนดังต่อไปนี้

ความต้องการ
เราทุกคนต่างก็มีความฝันกันมาตั้งแต่เด็กๆ ยังจำได้หรือไม่ว่าเราฝันว่าอะไรกันบ้าง บางคนตอนเด็กๆ ฝันว่า อยากเป็นนักบิน อยากเป็นทหาร อยากเป็นหมอ อยากรวย อยากมีรถสปอร์ต อยากนู่นอยากนี่ แต่ความคิดเหล่านี้เป็นแค่ความคิดพื้นฐานที่ใครต่างก็มีกันทั้งนั้น แต่เมื่อเวลาผ่านไปความฝัน ความต้องการเหล่านั้นกลับไม่เป็นความจริง รู้หรือไม่ว่าเราขาดอะไรไป ความต้องการเพียงอย่างเดียวมันยังไม่เพียงพอ มันต้องประกอบไปด้วย “ความตั้งใจ” ด้วย

ความตั้งใจ
ระหว่างความต้องการกับความตั้งใจมีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ความตั้งใจจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อความต้องการของเราเป็นความต้องการที่มากเพียงพอที่จะพัฒนาความคิด อารมณ์ ความรู้สึกของเราให้พัฒนาขึ้นไปอีกขั้น แล้วเมื่อเรามีความตั้งใจที่จะทำสิ่งต่างๆ ก็จะเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จได้ แต่เรามักจะเห็นหลายๆ คนที่มีความตั้งใจถึงระดับหนึ่ง แต่ก็ยังไม่สามารถที่ทำสิ่งที่เราตั้งใจออกมาให้เป็นผลสำเร็จได้ เช่น ตั้งใจจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยนี้แต่ก็สอบไม่ติด ตั้งใจจะลดน้ำหนักให้ได้ 5 กิโลกรัมแต่ก็ทำไม่ได้แถมน้ำหนักเพิ่มขึ้นอีก ตั้งใจที่จะรวยแต่ทำไมไม่รวยซักที รู้หรือไม่คุณยังขาดอะไร คุณขาด “เป้าหมาย” เป้าหมายในชีวิตที่ชัดเจน เพราะความตั้งใจเป็นแค่การประกาศอุดมการณ์ของเราให้รู้ว่าจะทำอะไรให้สำเร็จ แต่ปลายทางเรานั้นยังเลือนลางไม่เห็นทางที่เราจะไป

การตั้งเป้าหมาย
การที่เรามีความต้องการและความตั้งใจถือว่าดีแล้วแต่เราต้องวางเป้าหมายในชีวิตของเราให้ชัดเจนด้วย เพราะจะทำให้ความคิดและการกระทำของเราต่างๆ จะทรงพลังมากขึ้น การตั้งเป้าหมายจะช่วยทำให้เห็นภาพในสิ่งที่เราจะต้องการเป็นชัดเจนมากขึ้นและจะช่วยควบคุมการกระทำของเราให้ไม่ออกนอกลู่นอกทาง ทำให้นักคิดเชิงกลยุทธ์ไม่ใช่คนที่ฝันเฟื่องมีความต้องการหรือมีความตั้งใจเท่านั้นแต่จะต้องเป็นคนที่มีความฝันอย่างมีเป้าหมายมีภาพที่ชัดเจนและมีพลังผลักดันให้ไปถึงเป้าหมาย อุปสรรค์ของความสำเร็วจริงๆ แล้วอยู่ที่ตัวเราเป็นหลักไม่ใช่ปัญหาเกี่ยวกับการขาดความรู้ แต่เกิดจากการที่ตัวเราเองไม่จดจ่ออยู่กับเป้าหมายนั้นมากพอ การตั้งเป้าหมายที่ดีควรเป็นการตั้งเป้าหมายที่คำนึงถึงปัจจัยต่างๆ อย่างรอบด้าน และมีทั้งเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาวโดยแต่ละเป้ามหายจะต้องมีรายละเอียดและออกแบบขั้นตอนต่างๆ เพื่อที่จะไปถึงเป้าหมายให้ได้ บางครั้งเป้าหมายที่เราตั้งไว้อาจจะดูเป็นไปไม่ได้ แต่เมื่อเราลงลึกถึงขั้นตอนและวางแผนเพื่อที่จะไปถึงเป้าหมายนั้นเป็นข้อๆ ออกมา เราก็จะพอเห็นความเป็นไปได้ของเป้าหมายที่เราตั้งเอาไว้ได้

ความคิดเชิงกลยุทธ์
เป็นความคิดที่มีความยืดหยุ่นสูงไม่มีอะไรตายตัว การที่จะเป็นนักคิดเชิงกลยุทธ์ที่ดีได้ต้องรู้จักปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมภายนอก ไม่ยึดตนเองเป็นศูนย์กลาง ต้องรู้จักปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป ถ้ามาถึงจุดนี้ได้ ความสำเร็จจะอยู่เพียงแค่เอื้อม


เครดิต : TerraBKK.com 
---------------------------
แบ่งปันความมั่งคั่งอย่างมั่นคงโดย
Wealth Creation
www.wci.co.th/blog
www.facebook.com/wealthcreationpage

10 ธุรกิจทำเงิน ที่สามารถทำได้หลังเลิกงาน


10 ธุรกิจทำเงิน ที่สามารถทำได้หลังเลิกงาน

10 ธุรกิจทำเงิน ที่สามารถทำได้หลังเลิกงาน

ตามปกติแล้วถ้าใครทำงานประจำแล้ว ก็อาจจะไม่ได้เป็นเจ้าของธุรกิจ หรือถ้าใครเป็นเจ้าของแล้วก็ไม่คิดจะมาทำงานประจำ และสำหรับพนังงานประจำบางคนก็มีคำถามในใจว่า จะลาออกเมื่อไหร่ดี? เพราะอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองซะเหลือเกิน อยากเป็นเจ้านายตัวเอง อยากเก็บเกี่ยวผลผลิตที่ตัวเองปลูกมันขึ้นมา เราจึงรวบรวม 10 ธุรกิจทำเงินน่าสนใจ ที่ช่วยสร้างรายได้ในกระเป๋าหลังเลิกงาน มาฝากกัน โดยที่คุณเองไม่ต้องลาออกก็เป็นเจ้าของธุรกิจได้

1. ขายของกิน
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีฝีมือในการทำอาหารอร่อย แต่ต้องทำงานประจำทุกวัน การขายของกินไม่ว่าจะเป็นขายข้าวแกง หรือข้าวกล่อง ซึ่งคุณสามารถเลือกช่วงเวลาที่จะขายได้ด้วยตัวเอง เช่น เลิก 5 โมงเย็นทุกวัน เพราะจะได้ไม่กระทบต่องานประจำด้วย ก็ลองทำเมนูง่ายๆ มาลองขายก่อนก็ได้ อย่างเช่น ขายขนม ไก่ทอด และถ้าหากสินค้ายังขายไม่ดีก็อาจจะลองเปลี่ยนเมนูไปเรื่อยๆ จนกว่าจะจับทางลูกค้าถูกว่าลูกค้าส่วนใหญ่ชอบทานอะไร ซึ่งอาชีพเสริมขายของกินนี้ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งงานเสริมที่น่าสนใจและมีรายได้ดีเป็นอย่างมาก นอกจากนั้น ยังสามารถต่อยอดธุรกิจด้วยการรับทำข้าวกล่องหรือรับออเดอร์ได้ด้วย

2. ขายในสิ่งที่คุณถนัด
จะดีแค่ไหนถ้าได้ทำงานที่ตัวเองชื่นชอบและยังเป็นอีกหนึ่งอาชีพเสริมรายได้ สามารถทำหลังเลิกงานได้ โดยการเขียนรวบรวมทักษะ ความรู้ของคุณผ่านการเขียน eBook หรือ digital content เมื่อนั้นก็จะดึงดูดคนที่อยากเรียนรู้ประสบการณ์การทำงานหรือความรู้ของคุณเองโดยปริยาย โดยที่ไม่จำเป็นต้องสต๊อกสินค้าหรือมีต้นทุนการผลิตใดๆ ทั้งสิ้น

3. เผยแพร่สาระและความบันเทิงผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
Podcasting หรือ การให้บริการบนเวิลด์ไวด์เว็บในรูปแบบของการเผยแพร่กระจายเสียง ที่คุณสามารถใช้เวลาเพียงชั่วโมงหรือ 3 ชั่วโมง ในการสร้างกลุ่มคนฟัง โดยเปิดโอกาสให้ใครก็ได้ที่มีคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์เครื่องเล่นมีเดียดิจิติอล (Digital Media Player) สามารถดาวน์โหลดและรับฟังข่าวสารจากเครื่องเล่นได้ทุกที่ทุกเวลาที่ต้องการ
ทีนี้เมื่อมีกลุ่มคนฟังเหนียวแน่น คุณก็เริ่มหารายได้จากสปอน์เซอร์หรือโฆษณามาลงได้ อาจจะต้องลงทุนอุปกรณ์นิดหน่อย แต่ podcast online นั้นฟรี ซึ่ง Really Simple Syndication (RSS) จะเข้ามาช่วยให้คอนเทนต์ของบริการพอดแคสต์ที่จัดทำขึ้นสามารถถูกพบโดยผู้สนใจได้ทั่วโลกนั่นเอง ตัวอย่างซอฟต์แวร์พอดแคสต์ที่ได้รับความนิยมในการใช้งานก็เช่น iTunes ของ Apple หรือ Google Play เป็นต้น

4. ขายสินค้าผ่าน social media
มันเป็นโอกาสดี ถ้าคุณใช้เวลาส่วนใหญ่กับการเล่น social media ในตอนเย็น ทำไมคุณไม่ใช้พื้นที่ตรงนี้ในการเพิ่มรายได้ให้กับคุณ อาจเริ่มโดยการขายที่คุณสนใจ ซึ่ง Facebook ก็ได้บอกว่ามีหลายธุรกิจที่ทำการค้าขายผ่านออนไลน์ แต่สิ่งสำคัญ คือคุณต้องบริหารเวลา การจัดส่งสินค้า การตรวจสอบเงินโอนให้เป็นระบบด้วย

5. เขียน blog ของตนเอง
มีคนไม่น้อยที่สงสัยว่าแล้วการเขียน Blog มันได้เงินอย่างไรหรือสร้างรายได้จากตรงไหน ? ซึ่งแน่นอนหลายๆทางที่คุณจะหารายได้จากบล็อก ไม่จำเป็นว่าบล็อกนั้นจะต้องเป็นบล็อกส่วนตัว อาจจะเป็นบล็อกเฉพาะทางที่ชอบหรือถนัดก็ได้ แล้วอัฟเดทให้สม่ำเสมอแล้วจะมีคนติดตามคุณเอง เช่น
บล็อกท่องเที่ยว สถานที่ที่เคยไป เคยเที่ยวมาก็เอามาเขียนลงบล็อกได้,บล็อกรีวิวหนัง ไปดูหนังมาก็เอามาเขียนรีวิวแนะนำเพื่อนได้, บล็อกเนื้อเพลงที่ชอบ, บล็อกหนังสือที่เคยอ่าน, บล็อกภาพถ่ายของเราเอง ชอบถ่ายรูปก็เอามาลง ดีไม่ดีภาพนั้นอาจจะขายได้เงินอีกทาง, บล็อกกีฬาโปรด , หรือบล็อกเกี่ยวกับงานที่เราทำก็ได้, บล๊อกทำขนม อาหาร หรือขายแบนเนอร์ ง่ายสุดๆละ หาคนมาซื้อพื้นที่โฆษณา ลงโฆษณาบนบล็อก เป็นต้น

6. เรียนรู้ graphic design
มันไม่ยากหนัก ถ้าจะฝึกเรียนรู้ graphic design ด้วยตนเอง จากคนที่ไม่มีความรู้ด้านนี้มาก่อน เพราะการมีพื้นฐานเกี่ยวกับการออกแบบกราฟิก จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าได้ ดีไซน์ที่ดีจะช่วยให้ผลิตภัณฑ์นั้นๆ ดูดี และนำไปสู่การขายดีได้ เพื่อส่งต่อภาพลักษณ์นั้นให้กับกลุ่มเป้าหมายทางธุรกิจได้ประทับใจที่สุด โดยอาจเริ่มจากโปรแกรม Adobe software และเว็บไซต์ เช่น Canva และ Visme

7. รับสอนดนตรี
ปัจจุบันมีผู้สนใจเรียนดนตรีมากขึ้น ทั้งการเล่นดนตรีประเภทต่างๆ และการร้องเพลง ไม่ว่าจะมาเป็นเดี่ยวหรือกลุ่ม เพราะเป็นช่องทางที่จะก้าวสู่อาชีพสร้างรายได้อย่างงาม ดังนั้น หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่มีความรักและเชี่ยวชาญดนตรีอยู่แล้วละก็ อย่าทิ้งโอกาสที่จะเปิดโรงเรียนสอนดนตรี เพราะตลาดเรียนดนตรีขยายตัวกว้างขวางยิ่งขึ้นแน่นอน

8. พัฒนาแอพพริเคชั่น
สร้างแอพพลิเคชั่นบนมือถือและสมาร์ทโฟนขาย เป็นธุรกิจทำเงินที่สร้างรายได้อย่างไม่น่าเชื่อ โดยรายได้ที่ว่านั้นมาจากโฆษณาออนไลน์ที่ปรากฎบนแอปพลิเคชั่นของคุณ หลายๆ คนก็เริ่มหาความรู้ เพื่อที่จะสร้างแอพพลิเคชั่น หวังว่าจะเป็นนวัตกรรมดึงดูดผู้คนให้เข้ามาดาวน์โหลด ซึ่งยิ่งมียอดดาวน์โหลดมากเพียงใด นั่นก็เท่ากับว่าผู้สร้างแอพก็จะมีรายได้เข้ากระเป๋ามากเท่านั้น และถึงแม้ช่องทางหาเงินนี้ เริ่มต้นอาจต้องใช้เวลาหน่อยในการสร้างแอพพลิเคชั่น แต่เมื่อใดที่คุณลงมือทำแล้วละก็ ครั้งต่อไปคุณเองจะสามารถบริหารเวลาในการปล่อยแอพพลิเคชั่นบนมือถือได้ดีทีเดียว

9. บริการสถานเลี้ยงสัตว์
เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับคนรักสัตว์เลี้ยง ใช้เวลาหลังเลิกงานและวันหยุด เปิดร้าน Grooming Space ร้านอาบน้ำตัดขนให้น้องสุนัขและน้องแมว

10. ช่างซ่อมบำรุง
เมื่อคุณกลายมาเป็นช่างซ่อมบำรุงนอกเหนือจากชั่วโมงเวลาการทำงานประจำของช่างบริการอื่น คุณอาจได้รับข้อเสนอพิเศษจากลูกค้า หากเป็นความต้องการที่เร่งรีบ อยากให้ซ่อมแซมอุปกรณ์ที่เสียหายอย่างเร่งด่วน โดยคุณอาจติดประกาศโฆษณาบริการตามสถานที่สาธารณะต่างๆ
ที่มา : entrepreneur ขอบคุณข้อมูลจาก ฐานเศรษฐกิจ
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ : TerraBKK.com